วิกฤติภัยแล้ง58! บิ๊กตู่ผวาไม่มีน้ำใช้ถึง ส.ค.หากไร้ฝน ส่งลดระบายน้ำ


สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงมีรับสั่ง ให้ใช้น้ำสระพระราม 9 ทำน้ำประปาช่วยเหลือประชาชนให้พ้นความเดือดร้อน แม้ปริมาณน้ำอยู่ในสภาวะเกือบวิกฤติ นายกรัฐมนตรีย้ำต้องลดการระบายน้ำเขื่อนลง สงวนน้ำไว้สำหรับอุปโภค บริโภค เตรียมพิจารณาเงินช่วยเหลือเกษตรกรที่ไม่เพาะปลูกตามฤดูกาล “บิ๊กป๊อก” เชื่อหลังปรับลดการระบายน้ำทำให้มีน้ำประปาใช้ได้ถึงเดือน ส.ค. ส่วนปริมาณน้ำในเขื่อนหลักลุ่มเจ้าพระยาทั้ง 4 เขื่อนยังวิกฤติ ระดับน้ำเข้าอ่างน้อยกว่าน้ำระบายออก ชาวนาสุโขทัย พิษณุโลก นครสวรรค์ เฮฝนชุบชีวิตนาข้าว ขณะที่หนุ่มชาวนา อ.เก้าเลี้ยว เครียดภัยแล้งทำนาล่มไม่มีเงินทำนา ดิ่งสะพานข้ามแม่น้ำปิงฆ่าตัวตาย ส่วนที่ จ.สตูล ระนอง ฝนถล่มน้ำท่วมจมบาดาล 

สถานการณ์ภัยแล้งยังแผ่ขยายสร้างความเดือดร้อนในพื้นที่ภาคเหนือ อีสานและภาคกลางอย่างต่อเนื่อง ขณะที่น้ำในเขื่อนหลักลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาทั้ง 4 แห่ง ปริมาณน้ำไหลเข้ายังน้อยกว่าน้ำที่ระบายออก ยิ่งไปกว่านั้นแหล่งน้ำต่างๆ แห้งขอดส่งผลต่อการผลิตน้ำประปาบริการประชาชนในหลายจังหวัด

“ฉัตรชัย” มั่นใจประปาปทุมฯพอใช้
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 14 ก.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวถึงการแก้ปัญหาภัยแล้งว่า ปัญหาเรื่องการขาดแคลนน้ำประปาส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ซึ่งในส่วน จ.ปทุมธานี ได้รับการแก้ไขแล้ว โดยใช้น้ำดิบจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ขอให้มั่นใจว่าระบบน้ำประปาจะมีทั่วถึงประชาชน

นายกฯ ย้ำลดจ่ายน้ำเพื่อการเกษตร
ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวภายหลังการประชุม ครม. ถึงการแก้ไขปัญหาภัยแล้งว่า น้ำเพื่อการเกษตรนั้นมีปัญหาแน่นอน การปล่อยน้ำต้องลดลง หรืออาจจะจ่ายไม่ได้เลย ไม่เช่นนั้นคงอยู่ไม่ถึงเดือน ส.ค. เพราะคาดการณ์ว่ากลางเดือน ก.ค. จะมีปริมาณฝนตกลงมา ถ้าฝนไม่ตกสถานการณ์จะยิ่งหนักขึ้นไปใหญ่ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการขุดแหล่งเก็บน้ำไว้จำนวนมาก สื่อตามโซเชียลและอดีตนักการ เมืองที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ก็ต้องฟังด้วย และขอให้ดูว่าที่ทำมาแล้วมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง สมัยก่อนถ้ามีการขุดที่เก็บน้ำไว้คงไม่มีปัญหา วันนี้ต้องมาเริ่มต้นใหม่ตั้งแต่หาสถานที่กักเก็บน้ำ ที่ระบายน้ำและที่ส่งน้ำใหม่ โดยเร่งสำรวจความเดือดร้อนหางบประมาณ และกำหนดมาตรการที่ชัดเจน ทั้งนี้เกษตรกรสามารถแจ้งความเดือดร้อนที่ศูนย์ดำรงธรรมอีกทางหนึ่ง

พิจารณาให้เงินช่วยเกษตรกร
เมื่อถามถึงแนวคิดการตั้งกระทรวงน้ำ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า อย่าเพิ่งไปตั้งอะไรเอาแค่ของเดิมให้ทำงานให้ได้ เรามีหน่วยงานเดิมแต่ขาดการบูรณาการ ส่วนมาตรการลดการระบายน้ำจากเขื่อนเพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า การลดการระบายน้ำย่อมมีผลกระทบต่อภาคการเกษตร รัฐบาลต้องดูแล ต้องไปชี้แจงทำความเข้าใจว่าอย่าออกมากดดันหรือเรียกร้องอะไร ไม่เช่นนั้นจะเดือดร้อนไปถึงน้ำกิน น้ำใช้ ขณะนี้กำลังคิดถึงมาตรการในการช่วยเหลือในด้านตัวเงินเพื่อให้เกษตรกรที่ไม่สามารถเพาะปลูกตามฤดูกาลได้มีรายได้ แต่ต้องพิจารณาให้รอบคอบว่าทำอย่างไรไม่ให้กระทบกับการใช้จ่ายงบประมาณในภาคอื่นๆ ด้วย ปัญหาคือมันไม่มีน้ำและน้ำมีเท่าที่อยู่ในเขื่อนและการขุดเจาะน้ำบาดาลเท่านั้น ถ้าฝนไม่ตกมันก็ไม่มีน้ำ ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาวได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปศึกษาและเตรียมการไว้ ข้อมูลมีอยู่แล้วแต่ที่รัฐบาลที่ผ่านมายังไม่ได้ทำเพราะไม่มีงบประมาณและไม่อยากทำ

4 เขื่อนหลักลดระบายน้ำ
ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย แถลงถึงการแก้ปัญหาภัยแล้งของรัฐบาล ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงปริมาณน้ำในเขื่อนที่ลดลง ขณะนี้ปล่อยน้ำในเขื่อนลุ่มน้ำเจ้าพระยาเพื่อให้เกษตรกรอยู่ได้และน้ำอุปโภคบริโภคอยู่ได้ด้วย แต่ที่ประชุมได้หารือกันว่าจะลดการปล่อยน้ำจากเดิมปล่อย 28 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน ลดลงเหลือ 18 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน เริ่มลดการจ่ายน้ำวันที่ 16 ก.ค.เป็นต้นไป แต่ยืนยันว่าจะสามารถดูแลน้ำประปาให้ใช้อุปโภคและบริโภคได้ถึงเดือน ส.ค. คาดว่าในช่วงกลางเดือน ก.ค.นี้ยังมีฝน แต่ฝนจะทิ้งช่วงอีกครั้งในช่วงประมาณหลังวันที่ 20 ก.ค. จะเป็นช่วงวิกฤติของชาวนาในลุ่มน้ำ โดยนายกรัฐมนตรีได้สั่งให้มีมาตรการช่วยประชาชนโดยให้ ผวจ. ทหาร เดินสำรวจอย่างจริงจังว่ามีพื้นที่ได้รับผลกระทบเท่าไร เพื่อประเมินเตรียมช่วยเหลือต่อไป สำหรับแนวคิดว่าจะมีการดึงน้ำมาจากแม่น้ำโขงสาละวินนั้น อยู่ระหว่างการศึกษา เนื่องจากมีมูลค่าดำเนินการสูง คงไม่ทันดำเนินการในรัฐบาลชุดนี้แน่นอน

โครงการแก้ภัยแล้งเสร็จ 70 เปอร์เซ็นต์
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ เปิดเผยว่า ได้สรุปสถานการณ์แก้ไขปัญหาภัยแล้งและความคืบหน้าโครงการน้ำ ในปี 57-58 กว่า 5,000 โครงการ ที่แล้วเสร็จ 70 เปอร์เซ็นต์ ส่วนใหญ่เกี่ยวกับโครงการแก้มลิง หากเดือน ส.ค.แล้วเสร็จจะสามารถกักเก็บน้ำได้มากขึ้น และช่วยแก้ปัญหาภัยแล้งทั้งในเขตและนอกเขตชลประทาน ส่วนการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าจะผันน้ำจากบ่อบาดาลเข้าช่วยเหลือพื้นที่ภัยแล้งในภาคกลาง 2 แสน ลบ.ม.ต่อวัน และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะจัดหาน้ำดื่มช่วยเหลือ

“บิ๊กตู่” ประชุม กนช.สัปดาห์หน้า
นายจตุพรกล่าวว่า ปัญหาภัยแล้งปีนี้ เกิดจากปรากฏการณ์เอลนินโญ เมื่อน้ำน้อย น้ำต้นทุนก็น้อยตาม แต่ปลาย ก.ค.-ส.ค.เชื่อทิศทางเริ่มดีขึ้น อย่างเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ขณะนี้มีน้ำจาก จ.เพชรบูรณ์ ไหลเข้าสู่เขื่อนหลายล้านคิว ขณะที่ 33 เขื่อนทั่วประเทศ มีปัญหาน้ำไม่พอเพียง 4 เขื่อนเท่านั้น คือ ภูมิพล สิริกิติ์ ป่าสักชลสิทธิ์ และแควน้อยฯ หลังจากนี้คณะกรรมการฯ ชุดที่มี พล.อ.ฉัตรชัยเป็นประธานจะลดบทบาทลง เรื่องของน้ำทั้งระบบ แผนยุทธศาสตร์น้ำ จะรายงานต่อคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ซึ่งสัปดาห์หน้าจะประชุมครั้งแรก ทั้งนี้คณะกรรมการ กนช. ตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 50 สิ่งที่นายกฯ เน้นย้ำขอให้ดูเรื่องน้ำกินน้ำใช้เป็นอันดับแรก ส่วนงบประมาณไม่ได้ขออนุมัติเพิ่มเติม

“พระเทพฯ” รับสั่งเร่งช่วยประชาชน
นายลลิต ถนอมสิงห์ ผู้ช่วยเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา เปิดเผยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริให้ใช้สระพระราม 9 ที่อยู่ในความดูแลของมูลนิธิชัยพัฒนา ได้แจกจ่ายน้ำบรรเทาความเดือดร้อนในช่วงฤดูแล้งแก่ประชาชนมานานแล้ว และทำเป็นเรื่องปกติทุกปี ขณะนี้พื้นที่ จ.ปทุมธานี เกิดวิกฤติเรื่องน้ำประปา นายจิรชัย มูลทองโร่ย ประธานคณะกรรมการการประปาส่วนภูมิภาค ได้มาปรึกษาเรื่องขอใช้น้ำจากสระพระราม 9 ไปผลิตน้ำประปา ได้นำเรื่องนี้เข้ากราบบังคมทูลสมเด็จพระเทพรัตน ราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งทรงเป็นองค์ประธานกรรมการมูลนิธิชัยพัฒนา พระองค์ท่านมีรับสั่งว่าต้องช่วยเหลือประชาชนให้พ้นจากความเดือดร้อนก่อน แม้เวลานี้ปริมาณน้ำในสระจะอยู่ในสภาวะที่เรียกว่าเกือบจะวิกฤติ เพราะระดับน้ำเริ่มจะปริ่มในระดับที่หากเอาน้ำออกมากเกินไปจะทำให้แนวถนนที่ขนานกับตัวสระพังทลายลงมา แต่พระองค์ท่านก็ทรงรับสั่งว่า ถนนพังบ้างก็ไม่เป็นไร ต้องเอาน้ำออกไปช่วยเหลือประชาชนก่อน

รถผลิตประปาเคลื่อนที่เดินเครื่อง
ผู้ช่วยเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา กล่าวต่อว่า ทางฝ่ายวิศวกรได้มีการตรวจสอบแล้ว ว่าการที่การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ได้ขอใช้น้ำวันละ 7,200 ลบ.ม. เป็นเวลา 30 วัน หรือราว 2 แสน ลบ.ม. คิดเป็น 10 เปอร์เซ็นต์ของน้ำที่สามารถใช้ได้ โดยที่อ่างน้ำจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ เพราะมีน้ำที่สามารถใช้การได้ประมาณ 20 ล้าน ลบ.ม. ขณะนี้ กปภ.ได้นำรถผลิตน้ำประปาเคลื่อนที่จำนวน 3 คัน ไปติดตั้งที่บริเวณพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) คลอง 5 ซึ่งตั้งขนาบอยู่ข้างสระพระราม 9 น้ำจาก สระจะถูกส่งเข้ามายังระบบผลิตน้ำประปาเคลื่อนที่ และจะนำเข้าระบบท่อประปารวมส่งไปแจกจ่ายยังบ้านเรือนของประชาชนในพื้นที่ จ.ปทุมธานี ต่อไป

เขื่อนลุ่มเจ้าพระยา 4 แห่งวิกฤติ
ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน รายงานสถานการณ์น้ำ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา ที่เขื่อนภูมิพล จ.ตาก ปริมาณน้ำอยู่ที่ 3,952 ล้าน ลบ.ม. มีน้ำใช้การได้ 151 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 1.57 เปอร์เซ็นต์ของความจุอ่าง มีน้ำไหลเข้าอ่าง 980,000 ลบ.ม. ระบายน้ำออกท้ายเขื่อน 8 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ มีปริมาณน้ำ 3,168 ล้าน ลบ.ม. มีน้ำใช้การได้ 318.07 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 4.78 เปอร์เซ็นต์ มีน้ำไหลเข้า 5.79 ล้าน ลบ.ม. ระบายน้ำท้ายเขื่อน 17.03 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก ปริมาณน้ำอยู่ที่ 99 ล้าน ลบ.ม. มีน้ำใช้การได้ 56 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 6 เปอร์เซ็นต์ มีน้ำไหลลงอ่าง 760,000 ลบ.ม. ระบายน้ำออก 1.73 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี มีน้ำ 43 ล้าน ลบ.ม.มีน้ำใช้การได้ 40 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 4 เปอร์เซ็นต์ มีน้ำไหลลงอ่าง 520,000 ลบ.ม. ปริมาณน้ำระบาย 1.28 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำรวมทั้ง 4 เขื่อนอยู่ที่ 7,262 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 29 เปอร์เซ็นต์ของความจุ มีน้ำใช้การได้ 566 ล้าน ลบ.ม. มีน้ำไหลลงอ่างรวม 8.05 ล้าน ลบ.ม. แต่มีปริมาณน้ำระบายอยู่ที่ 28.04 ล้าน ลบ.ม. หากไม่มีฝนตกมาเติมน้ำในเขื่อน จะมีน้ำใช้การได้แค่ 20 วันเท่านั้น

น้ำดิบเจ้าพระยาเค็มเกินมาตรฐาน
นอกจากนี้ กรมชลประทานได้ติดตามตรวจสอบและเข้าระวังคุณภาพน้ำ (ค่าความเค็ม) ในแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พบว่าบริเวณปากคลองสำแล จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นจุดสูบน้ำดิบเข้าสู่ระบบการผลิตน้ำประปา มีค่าความเค็มอยู่ที่ 0.83 กรัมต่อลิตร สูงกว่าค่าความเค็มมาตรฐานสำหรับการผลิตน้ำประปาที่ 0.25 กรัมต่อลิตร นอกจากนี้ความเค็มแม่น้ำเจ้าพระยาที่บริเวณท่าน้ำนนทบุรี จ.นนทบุรี มีค่าความเค็ม 5.24 กรัมต่อลิตร และที่บริเวณท่าน้ำกรมชลประทาน สามเสน มีค่าความเค็มถึง 8.05 กรัมต่อลิตร สูงเกินกว่าค่าความเค็มสำหรับการเกษตรที่จะต้องมีค่าไม่เกิน 2 กรัม/ลิตร

สั่งปิดคลอง จ.ปทุมธานี 20 สาย
นายสุเทพ น้อยไพโรจน์ รองอธิบดีกรมชลฯ กล่าวว่า ช่วงเช้ามืดมีน้ำทะเลหนุนสูงเข้ามาในแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้ค่าความเค็มของเจ้าพระยาพุ่งสูง ตนสงสัยว่าเกิดปัญหาค่าความเค็มพุ่งสูงได้อย่างไร เพราะได้เพิ่มการระบายน้ำจืดจากเขื่อนเจ้าพระยาลงมาช่วยแล้วจากวันละ 75 ลบ.ม.ต่อวินาที เป็นวันละ 80 ลบ.ม.ต่อวินาที แสดงว่าต้องมีการดักน้ำไประหว่างทางก่อนที่น้ำจืดจะมาถึงปากคลองสำแล จึงได้สั่งการให้ปิดคลองทั้งหมดใน จ.ปทุมธานี ที่เชื่อมต่อกับแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งหมดรวมประมาณ 20 สาย ตั้งแต่เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป พร้อมเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาขึ้นเป็น 85 ลบ.ม.ต่อวินาที เพื่อไม่ให้ค่าความเค็มพุ่งขึ้นกระทบการผลิตน้ำประปา

ชาวนาสุโขทัยเฮฝนตกหนัก
จ.สุโขทัย แม่น้ำยมที่ไหลผ่าน อ.สวรรคโลก ลดระดับลงต่อเนื่อง บริเวณประตูระบายน้ำบ้านหาดสะพานจันทร์ หมู่ 9 ต.ในเมือง เจ้าหน้าที่ต้องระบายน้ำให้ประชาชนด้านท้ายน้ำใช้เพื่อการอุปโภคบริโภค ทำให้น้ำที่เก็บกักไว้ลดลงอย่างรวดเร็ว โดยน้ำด้านเหนือประตูระบายน้ำอยู่ที่ 55.67 ล้าน ลบ.ม. ด้านท้ายเขื่อนอยู่ที่ 52.17 ล้าน ลบ.ม. ทำให้สันดอนทรายก้นแม่น้ำยมโผล่กลายเป็นเกาะแก่ง ต่อมาในช่วงบ่ายเกิดฝนตกหนักนานกว่า 1 ชั่วโมงในพื้นที่ อ.เมือง และเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำยมเพิ่มสูงขึ้น ชาวบ้านต่างไชโยโห่ร้องด้วยความดีใจที่ฝนตกลงมา ต่างหวังว่าฝนจะตกลงมาเยอะๆชาวไร่ ชาวนา จะได้ทำมาหากินกันได้

ฝนชุบชีวิตพืชผลการเกษตร
ที่ จ.พิษณุโลก ฝนตกหนักที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกชาติตระการ อ.ชาติตระการ วัดปริมาณน้ำฝนได้ 75 มม. ทำให้สภาพน้ำตกที่ชั้นที่ 1 มีน้ำเพิ่มขึ้นหลังจากแห้งขอดมาหลายเดือน สร้างความชุ่มชื้นให้กับป่าและพื้นที่ทางการเกษตรได้ระดับหนึ่ง เช่นเดียวกันที่ จ.นครสวรรค์ ฝนหลวงที่ตกลงมาเกือบทุกวัน ส่งผลให้นาข้าวรอบบึงบอระเพ็ด หมู่ 7 ต.เกรียงไกร อ.เมืองนครสวรรค์ กลับมามีชีวิตชีวาเป็นสีเขียวชอุ่มอีกครั้ง ส่วนบริเวณปากคลองตั๊วเกา ต.ท่างิ้ว อ.บรรพตพิสัย ชาวนา 3 ตำบล ผลัดเปลี่ยนกันสูบน้ำเข้าพื้นที่ละ 5 วัน ตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้น้ำในแม่น้ำปิงตื้นเขินมีเกาะแก่งเนินทรายโผล่ขึ้นให้เห็นตลอดลำน้ำตั้งแต่ อ.บรรพตพิสัย จนถึง อ.เมืองนครสวรรค์

ชาวนาเครียดภัยแล้งดิ่งสะพานดับ
เที่ยงวันเดียวกัน พ.ต.ท.กิตติภพ ธวัชชัยวิสุทธิ์ รอง ผกก.สส.สภ.เก้าเลี้ยว จ.นครสวรรค์ สอบสวนเหตุคนกระโดดสะพานหลวงพ่อเฮงประชานุสรณ์ ต.มหาโพธิ อ.เก้าเลี้ยว จ.นครสวรรค์ ฆ่าตัวตาย พบว่าสะพานดังกล่าวเป็นสะพานข้ามแม่น้ำปิง และน้ำแห้งขอดเหลือแต่พื้นดินปนทราย พบศพนายวีรยุทธ ศรีพัฒน์ อายุ 28 ปี บุตร อยู่บ้านเลขที่ 377/1 หมู่ 2 ต.มหาโพธิ์ คอหักตาย สอบถามเพื่อนบ้านทราบว่า นายวีรยุทธมีอาชีพทำนา แต่ข้าวที่ปลูกไว้แห้งตายจากภัยแล้ง ก่อนเกิดเหตุนายวีรยุทธไปขอยืมเงินผู้ใหญ่บ้านหรือกำนัน เพื่อนำไปลงทุนทำนาใหม่ แต่ไม่ได้เงินมา ต่อมามีผู้ได้ยินผู้ตายมีปากเสียงกับนางสนอง ศรีพัฒน์ ผู้เป็นแม่ในบริเวณบ้าน คาดว่าคงเข้าไปขอยืมเงินแม่แต่ก็ไม่ได้อีก กระทั่งมีคนพบศพนายวีรยุทธกระโดดสะพานฆ่าตัวตายดังกล่าว คาดว่านายวีรยุทธคงจะเกิดความเครียดที่ไม่สามารถหาเงินมาลงทุนทำการเกษตรต่อไปได้จึงฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดจากสะพานลงมากระแทกพื้นดินที่แห้งแล้งจากน้ำลดจนคอหักตาย เจ้าหน้าที่ได้นำศพส่งโรงพยาบาลเก้าเลี้ยวเพื่อตรวจชันสูตรต่อไป

ส่งน้ำทำประปาลพบุรี–พระนครศรีอยุธยา
นายสุชาติ เจริญศรี ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามโนรมย์ สำนักชลประทานที่ 10 กล่าวว่า ทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามโนรมย์ นำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่แบบซับเมอร์สปั๊ม 3 เครื่อง ใช้ร่วมกับเครื่องสูบน้ำ 12 นิ้ว อีก 15 เครื่อง เร่งสูบน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา ผ่านประตูระบายน้ำมโนรมย์ ลงคลองชัยนาท-ป่าสัก เพื่อใช้เป็นน้ำดิบผลิตน้ำประปาในพื้นที่ จ.ลพบุรี และพระนครศรีอยุธยา จำนวน 16 แห่ง โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารเข้าไปดูแลไม่ให้ชาวบ้านสูบน้ำไปใช้ส่วนตัว คาดว่าน้ำที่ส่งไปจะถึงที่หมายในวันที่ 16 ก.ค.นี้ ขณะเดียวกัน นายธนาคม จงจิระ ผวจ.ลพบุรี ได้ตรวจดูการสูบน้ำดิบจากคลองชัยนาท-ป่าสัก ของการประปาส่วนภูมิภาคลพบุรี บริเวณสถานีสูบน้ำดิบโคกกะเทียม และได้นำรถแบ็กโฮ ทำการขุดลอกคลองเพื่อรอรับน้ำที่กำลังส่งเข้ามาเพื่อใช้ทำน้ำดิบ

ปราจีนบุรีฝนถล่มน้ำท่วม
จ.ปราจีนบุรี ฝนตกหนักในหลายพื้นที่เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยเฉพาะ อ.นาดี และ อ.กบินทร์บุรี ฝนตกหนักนานกว่า 2 ชั่วโมง ทำให้ไฟฟ้าดับไปทั่วบริเวณ และน้ำไหลจากที่สูงลงที่ราบต่ำระบายไม่ทันเอ่อท่วมถนนสาย 304 กม.175-176 บ้านโคก–อุดม ต.หนองกี่ อ.กบินทร์บุรี ทั้งสองฝั่งถนนเป็นระยะทางกว่า 500 เมตร ระดับน้ำสูง 30-50 ซม. ทำให้การจราจรติดขัด กระแสน้ำยังไหลไปตามที่ราบต่ำถนนทางเข้าหมู่บ้าน รวมทั้งตลาดอุดมสุข ถูกน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง แต่ระดับน้ำลดลงเข้าสู่ภาวะปกติเมื่อเวลา 01.00 น. ขณะที่นายฉัตรชัย แนวสุข กำนันตำบลหนองกี่ เปิดเผยว่า ฝนได้ตกลงมาทำให้ในหลายพื้นที่ของ ต.หนองกี่ มีน้ำมาเพิ่มเติมทำให้เกษตรกร รวมทั้งชาวนาเริ่มมีความหวังที่จะทำนาต่อไป

โคราชฝนกระหน่ำชาวนาเร่งสูบน้ำ
ที่ จ.นครราชสีมา ฝนที่ตกหนักในหลายพื้นที่เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา และเขต อ.เมืองนครราชสีมา หลายแห่ง โดยเฉพาะชุมชนราชนิกูล 3 ชาวบ้านกว่า 200 หลังคา เร่งขนย้ายทรัพย์สิน และวิดน้ำออกจากบ้าน ไม่เว้นแม้แต่ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ นครราชสีมา น้ำได้ทะลักเข้าท่วมชั้นใต้ดิน เป็นลานจอดรถและโซนขายเสื้อผ้าแฟชั่นได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ยังเกิดน้ำท่วมถนนหลายสาย เช่น ถนนมิตรภาพฝั่งหน้าตลาดเซฟวัน และช่วง กม.1 ทั้งขาเข้าและขาออก บริเวณสามแยกจักราช ถนนราชสีมา-โชคชัย น้ำท่วมสูง 50-60 ซม. แต่น้ำได้ลดเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ขณะเดียวกัน เกษตรกรชาวนาบริเวณพื้นที่ท้ายเขื่อนลำตะคองต่างพากันเร่งสูบน้ำเข้าที่นา หลังน้ำในลำน้ำเพิ่มสูงขึ้น

ทำพิธีขอฝนพระคันธาราฏ
ที่หน้าพระอุโบสถวัดสุทธจินดาวรวิหาร อ.เมืองนครราชสีมา นายวินัย วิทยานุกูล รอง ผวจ.นครราชสีมา เป็นประธานในพิธีบวงสรวงพระคันธาราฏ (พระขอฝน) ประจำจังหวัดนครราชสีมา โดยมีข้าราชการ พ่อค้า และประชาชนร่วมงานเป็นจำนวนมาก เพื่อขอฝนตามความเชื่อโบราณ โดยเชิญนายณรงศักดิ์ คูกิติรัตน์ หรืออาจารย์แห้ว หมอดูเทวดาตาทิพย์ แห่งศาลเจ้านาคราช อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ มาเป็นเจ้าพิธี และยังได้เชิญคณะครูพราหมณ์มหาบุญยัง ขวัญอยู่มาประกอบพิธีกล่าวเชิญพญานาคมาให้น้ำเพื่อขอฝนด้วย

น้ำทะลักเข้าลำตะคอง 1.2 ล้านคิว
ทางด้านนายสุทธิโรจน์ กองแก้ว ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำ และบำรุงรักษาลำตะคองเปิดเผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมามีฝนตกลงมาอย่างหนักหลายพื้นที่ของ จ.นครราชสีมา โดยเฉพาะในพื้นที่เขื่อนลำตะคอง อ.สีคิ้ว วัดปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยได้ 44.6 มิลลิเมตร ทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนลำตะคอง 1.2 ล้าน ลบ.ม. ส่งผลให้ปริมาณน้ำใช้การได้ในเขื่อนลำตะคอง เพิ่มขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่กว่า 54 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 17 เปอร์เซ็นต์ของความจุเขื่อน แต่ยังต้องปล่อยน้ำออกจากเขื่อนวันละ 430,000 ลบ.ม. เพื่อการอุปโภคบริโภคการทำประปา

ฝนถล่ม 4 อำเภอจมบาดาล
จ.สตูล หลังเกิดฝนตกติดต่อกัน 2-3 วัน ทำให้น้ำในคลองดูสน ล้นทะลักท่วมบ้านเรือนราษฎรตั้งอยู่ที่ลุ่มสองฝั่งคลองใน อ.ควนโดน ได้แก่ หมู่ 1, 2, 3, 4 และหมู่ 7 ต.ย่านซื่อ จำนวน 957 ครัวเรือน และหมู่ 2, 4, 6 และเขตเทศบาลตำบลควนโดน รวม 750 ครัวเรือน นอกจากนี้น้ำในคลองดูสน ไหลผ่าน ต.ฉลุง ต.บ้านควน และ ต.คลองขุด อ.เมืองสตูล เพิ่มระดับอย่างต่อเนื่อง กระทั่งในช่วงสายน้ำได้เอ่อท่วมพื้นที่ หมู่ 1, 2, 3, 4, 5, 9, 11 และในเขตเทศบาล ต.ฉลุง บางส่วน น้ำไหลบ่าท่วมถนนหลังตลาดสด เทศบาล ต.ฉลุง แต่รถรายังสามารถผ่านได้ ส่วนที่ อ.ท่าแพ น้ำจากลำคลองท่าแพ เข้าท่วมบ้านเรือนในพื้นที่หมู่ 2, 3, 4, 5, 6 และหมู่ 8 ต.ท่าแพ ชาวบ้านได้รับผลกระทบ 230 ครัวเรือน ขณะที่น้ำในคลองละงูเอ่อท่วมที่ลุ่มในพื้นที่หมู่ 1, 5, 7 ต.เขาขาว อ.ละงู ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสตูล กำลังรวบรวมข้อมูลเสนอ ผวจ.สตูล เตรียมประกาศเป็นเขตภัยพิบัติอุทกภัย

ระนองน้ำท่วมถนนกลายเป็นคลอง
จ.ระนอง เกิดฝนตกหนักตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ทำให้น้ำในคลองบางนอน คลองเจ็ดท่อ ล้นเอ่อท่วมผิวจราจรบริเวณสี่แยก รพ.ระนอง ด้านหน้าสำนักงานสาธารณสุขระนอง สูงประมาณ 30-40 ซม. และน้ำในคลองระหัดบน ไหลทะลักท่วมพื้นที่เทศบาลเมืองระนองและเขตเทศบาลเมืองบางริ้น ส่วนที่หมู่ 6 บางริ้น อ.เมืองระนอง ชาวบ้านซึ่งอยู่ติดกับขุมเหมือง น้ำไหลบ่าท่วมบ้านสูง 40 ซม. โดยทางเทศบาลเมืองบางริ้นและทหารจาก ร.25 พัน. 2 ได้นำเครื่องสูบน้ำมาสูบน้ำออกและนำกระสอบทรายมากั้นน้ำไม่ให้เข้าในบ้าน จัดเตรียมกระสอบทรายแจกตามชุมชนที่มีความเสี่ยง นายสุริยันต์ กาญจนศิลป์ ผวจ.ระนอง สั่งเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง
*******************************
ที่มา http://www.thairath.co.th/social